วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ไผ่ซางหม่น...ไผ่สารพัดประโยชน์เป็นที่ต้องการของตลาด

“ไผ่ซางหม่น” ใครเคยได้ยินชื่อนี้บ้าง...บางคนอาจจะเคย บางคนอาจจะไม่เคย ก็แล้ว “ไผ่ซางนวล” ล่ะ ใครเคยได้ยินชื่อนี้บ้าง... บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้มากกว่า ไผ่ซางหม่นก็เหมือนกับไผ่ซางนวลแหละ แต่ไผ่ซางหม่นมีขนาดลำใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด ไผ่ซางหม่นจัดเป็นไผ่ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เส้นรอบวงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 10-15 ซม. สีของลำสีเขียว มีคราบของแป้งสีขาวหรือวงขาวต่าง ๆ หรือสีขาวหม่น ชาวบ้านจึงเรียกว่า “ไผ่ซางหม่น” ตามลักษณะที่เกิดขึ้นของมันนั่นเอง

ไปเห็นไผ่ซางหม่นเพราะข้าพเจ้าได้ไปดูงานกับกรมป่าไม้ ไปดูงานที่ศูนย์วิจัยผลิตผลป่าไม้จังหวัดเชียงใหม่ ที่บ้านปางเฟือง หมู่ที่ 2 ตำบลปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งมี คุณสุเทพ เฉียบแหลม เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ

ลุงสมจิต มณีรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 510 หมู่ที่ 10 ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ นำไผ่ซางหม่นมาทำ เฟอร์นิเจอร์ ลุงบอกว่ามีพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ปลูกไม้สัก ยางพาราและไผ่ประมาณ 2,000 กอ รวมแล้วประมาณ 10 ไร่เพื่อใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งทำมาแล้วกว่า 3 ปี

ปัจจุบันมีการปลูกไผ่ซางหม่นในแถบภาคเหนือบริเวณจังหวัดแพร่ ลำพูน ลำปาง และเชียงใหม่ ตอนนี้เกษตรกรกำลังสนใจที่จะขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้น เนื่องด้วยกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ทั้งหน่อเพื่อการบริโภคและลำไผ่เพื่อป้อนโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์

ไผ่ซางหม่นจะเจริญเติบโต ได้ดีเมื่อผ่านปีที่ 4 ไปเพราะมีไผ่ลำใหญ่เป็นลำแม่ให้หน่อที่มีขนาดใหญ่ แต่หากมีการให้ปุ๋ยให้น้ำที่เหมาะสมก็อาจได้ผลผลิตอย่างมากตั้งแต่ปีที่สามเป็นต้นไป หากต้องการนำลำไม้ไผ่มาใช้ประโยชน์ด้านก่อสร้างหรือทำเครื่องเรือนที่มีราคาแพงควรเลือกลำไม้ไผ่ที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไปเพราะลำไผ่ที่แก่มักไม่ถูกรบกวนจากมอดและแมลง ฉะนั้นหากมีวัตถุประสงค์ในการปลูกไผ่เพื่อผลิตทั้งหน่อไม้ และนำไม้ไปทำเฟอร์นิเจอร์ ควรปล่อยหน่อไม้ให้เป็นลำต่อไปโดยตัดกิ่งแขนงเล็ก ๆ บริเวณโคนต้นทิ้งไปเท่านั้น

เมื่ออายุ 2 ปีจะมีหน่อไม้แตกขึ้นมาอีก อาจจะคัดเลือกหน่อไม้ที่มีลักษณะไม่ดีออกไปจำหน่ายบ้าง โดยเลือกหน่อไม้ที่แทรกมาจากดินและมีขนาดใหญ่สมบูรณ์เก็บไว้ให้เป็นต้นใหม่ประมาณ 5-6 หน่อ ฉะนั้นเมื่อขึ้นปีที่ 3 จะมีลำประมาณ 8-10 ลำ

เมื่อครบอายุ 3 ปีจะมีหน่อจำนวนมาก สามารถตัดหน่อออกไปจำหน่ายได้ พอปีที่ 4 เป็นต้นไปก็สามารถตัดลำมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว ก็นำมาทำเฟอร์นิเจอร์

ลุงบอกว่า ตอนแรกที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้มาแนะนำให้ปลูกพร้อมกับให้คำแนะนำในด้าน ต่าง ๆ เช่น การตอนกิ่ง การชำปล้อง จนได้กล้าพันธุ์มากพอจึงนำไปปลูก นอกจากทำเฟอร์นิเจอร์แล้ว หน่อของมันคือหน่อไม้ยังจำหน่ายได้ด้วย บางงวดขาย หน่อได้ราคาดีกว่าทำเฟอร์นิเจอร์ซะอีก ลุงบอกว่า หน่อไผ่ซางหม่นอร่อยมาก ๆ..รสชาติดีไม่ มีอะไรเหมือน เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม...

ไผ่ซางหม่นเหมาะมากที่ จะนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะลำมันเปล้าตรง ความยาวของปล้องประมาณ 30-50 ซม. เป็นไผ่ที่มีลักษณะพิเศษคือ ไม่ค่อยมีกิ่งแขนง ไม่มีหนาม มีพุ่มใบอยู่ที่ปลายยอด

การนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ลุงเขาก็มีกระบวนการนะ มิใช่อยู่ ๆ เอามาทำ งั้นมอดก็แทะเพลินสิ ขอบอกคร่าว ๆ ถึงขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้ การคัดเลือกไม้ไผ่ การอาบน้ำยา การผึ่ง การอบ การขูดผิว เจาะรู การประกอบ และการทำสี

เฟอร์นิเจอร์ที่ลุงทำก็มีเตียง เก้าอี้ โซฟา โต๊ะ...ใครสนใจติดต่อที่ลุงได้ขายทั้งพันธุ์ หน่อ ลำ และที่นำมาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์....มีความสุขไหม (คือเห็นคนอื่นเขามีความสุขเราก็มีความสุขด้วยไง) หากจะบอกว่าลุงเขามีรายได้กว่าแสนบาทต่อเดือน!.

ที่มา : www.dailynews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น: